ปี 2024 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับกลยุทธ์และการออกแบบแบรนด์ต่างๆ ในบทสรุปนี้ เราจะพูดถึงเทรนด์สำคัญที่กำลังกำหนดทิศทางของแบรนด์ คุณจะได้เห็นว่าแบรนด์ต่างๆ ปรับใช้เทคโนโลยีอย่างไร สร้างชุมชนที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างไร และสร้างประสบการณ์เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้คนอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
Deloitte ระบุว่าเทคโนโลยี Generative AI ได้กลายเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการสื่อสารสำหรับธุรกิจ ทั้งในแง่ของการสำรวจตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ การสร้างสรรค์นำเสนอทางไอเดีย รวมไปถึงการทำงานแทนคนในหลายๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านการสื่อสารโฆษณาและการตลาด
ช่วยกระบวนการสร้างคอนเทนต์มีความหลากหลาย รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI-Generated Content เพื่อสร้างบทความ โฆษณา หรือโพสต์โซเชียลมีเดียที่ดึงดูดลูกค้า อีกทั้ง AI ยังช่วยวิเคราะห์แนวโน้มคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยม ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้ตรงกับพฤติกรรมของตลาดแบบเรียลไทม์
เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำโฆษณาออนไลน์ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการใช้ Machine Learning ในการปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น Facebook Ads และ Google Ads ใช้ AI เพื่อคาดการณ์ว่าคอนเทนต์แบบไหนจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทำให้แบรนด์สามารถใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่า
ในขณะเดียวกัน การปรับแต่งประสบการณ์ให้เข้ากับแต่ละบุคคลยังคงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับแบรนด์ บริษัทที่สร้างประสบการณ์ส่วนตัวจะเห็นอัตราการมีส่วนร่วมและความภักดีของลูกค้าที่สูงขึ้น ตามข้อมูลของ Deloitte 75% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อจากแบรนด์ที่ให้เนื้อหาแบบส่วนตัว และ AI กำลังมีบทบาทสำคัญในการทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้
สิ่งนี้เห็นได้ชัดจากตัวอย่างแคมเปญที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Coca-Cola Arabia ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 ที่ประเทศกาตาร์ Coca-Cola ใช้ Ads Creative Studio ของ Google เพื่อปรับแต่งโฆษณาวิดีโอส่วนบุคคลมากกว่า 30 รายการแบบเรียลไทม์โดยอิงตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เช่น เกม ฟุตบอล และแฟชั่น กลยุทธ์นี้เป็นตัวอย่างการปรับแต่งที่ขับเคลื่อนด้วย AI และประสบความสำเร็จในการดึงดูดทุกกลุ่มเป้าหมายวงกว้างที่มีความหลากหลายในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นวัย เพศ ภาษา และวัฒนธรรม
ในขณะที่กระแสต่อต้าน Green Washing ทั่วโลกเริ่มมีมากขึ้น ความถูกต้องตามจริงไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น แบรนด์ที่ยึดมั่นในเป้าหมายที่มีความหมายจะโดดเด่นในปี 2025 โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่ และมีความผูกพันกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม อย่างเช่นในโซนเอเชีย มรดกเหล่านี้ยังคงฝังรากลึกในพฤติกรรมของผู้บริโภค
สำหรับแบรนด์ที่มุ่งหวังความยั่งยืน โอกาสอยู่ที่การประสานมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลกเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น เราได้เห็นแนวทางนี้ในแบรนด์หรูที่นำวัสดุที่ยั่งยืนมาใช้โดยยังคงรักษาความสวยงามทางวัฒนธรรมไว้ เพื่อผสมผสานศิลปะแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสีเขียวที่สอดคล้องกับเป้าหมายการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนแก่สังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นต้น
การผสมผสานระหว่างประสบการณ์ทางกายภาพและดิจิทัล “phygital” กำลังมีความเชื่อมโยงกับผู้คนอย่างยิ่งในยุคนี้ ที่เน้นการรับข้อมูลข่าวสาร ที่ง่าย สะดวกสบายและรวดเร็วซึ่งเป็นผลพวงของนวัตกรรมดิจิทัล
หลายธุรกิจกำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำในการสร้างประสบกาณ์เสมือน ด้วยการใช้ประโยชน์จาก AR เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สมจริง บริษัทบางแห่งกำลังนำเทคโนโลยี AR มาใช้เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นผลิตภัณฑ์ได้แบบเรียลไทม์โดยใช้สมาร์ทโฟน ตั้งแต่การลองสินค้าแบบเสมือนจริงไปจนถึงการดูตัวอย่างสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ การผสานรวมเทคโนโลยีและการโต้ตอบภายในร้านอย่างราบรื่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นยอดขายเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความภักดีของลูกค้าอีกด้วย
Phygital ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ธุรกิจที่เน้นขายสินค้าเท่านั้น ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็กำลังนำเทรนด์นี้มาใช้โดยนำเสนอทัวร์ชมอสังหาริมทรัพย์แบบเสมือนจริงที่ทำให้ประสบการณ์การซื้ออสังหาริมทรัพย์มีความเชื่อมโยงกับประสบการณ์ส่วนตัวและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่กำลังสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับโฆษณาและอัลกอริทึมมากกว่าการเชื่อมต่อที่แท้จริง เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้ แพลตฟอร์มใหม่ๆ จึงหันมาเน้นการสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งและมีความหมายมากขึ้น บางแพลตฟอร์ม เช่น Kindr, Letterboxd และ Ravelry รวบรวมผู้คนที่มีความสนใจร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำความดี ภาพยนตร์ หรือการถักนิตติ้ง ในขณะที่บางแพลตฟอร์ม เช่น Bluesky นำเสนอทางเลือกแบบกระจายสิทธิ์ให้ผู้ใช้มีความเป็นส่วนตัว เสรีภาพ และการควบคุมมากขึ้น
สำหรับแบรนด์ นี่หมายถึงการคิดหาวิธีสร้างชุมชนจริงที่ผู้คนต้องการเข้าร่วม รวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับแพลตฟอร์มแบบกระจายสิทธิ์เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ใช้ในยุคปัจจุบัน การทำเช่นนี้จะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างชุมชนที่ภักดีและมีส่วนร่วม ซึ่งแบ่งปันวิสัยทัศน์และค่านิยมเดียวกัน
ในปี 2025 วัฒนธรรมภายในแบรนด์จะมีความสำคัญพอๆ กับการรับรู้แบรนด์ภายนอก แบรนด์ต่างๆ ตระหนักดีว่าประสบการณ์ที่มีความหมายของผู้บริโภคเริ่มต้นจากการมีส่วนร่วมของพนักงานอย่างแท้จริง จากการสำรวจเราพบว่ามีความต้องการโปรแกรมที่ปรับวัฒนธรรมภายในให้สอดคล้องกับค่านิยมของแบรนด์เพิ่มขึ้น 40%
AI จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างแบรนด์องค์กร ช่วยให้สามารถจัดโปรแกรมการฝึกอบรมและการสื่อสารตามความต้องการที่ตรงใจพนักงานและเสริมสร้างการเชื่อมโยงกับแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งการลงทุนในวัฒนธรรมของแบรนด์และการทำให้แน่ใจว่าแบรนด์องค์กรของคุณมีความครอบคลุมจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของพนักงานและรับรองการนำเสนอแบรนด์ที่สอดคล้องและแท้จริงในทุกจุดสัมผัสของผู้บริโภค
แบรนด์ต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้มองข้ามการออกแบบสื่อสารที่เรียบง่าย ตามเทรนด์ที่เป็นกระแสชั่วคราว เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์และความพิเศษเฉพาะตัวตั้งต้นของธุรกิจตัวเองแทน Lippincott ระบุว่าภายในปี 2025 แบรนด์หลายแห่งจะหยุดตามกระแสและหันมาเน้นความแท้จริงและความเชื่อมโยงกับรากเหง้าของตัวเองมากขึ้น Pentagram ยังสังเกตเห็นว่าแบรนด์ต่าง ๆ กำลังนำองค์ประกอบการออกแบบเก่ากลับมาใช้ เช่น โลโก้เรือคลาสสิกของ Agnesi และรูปลักษณ์ใหม่ของ Pepsi ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอดีต การใช้ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ช่วยสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง และเชื่อมโยงกับลูกค้าได้ดีขึ้นผ่านความรู้สึก nostalgic (รำลึกถึงความทรงจำเก่าๆ)
ผู้คนไม่ได้ใช้เพียง Google สำหรับการค้นหาข้อมูลอีกต่อไป เมื่อ Generative AI และแอปโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok กลายเป็นช่องทางยอดนิยมสำหรับการค้นหาข้อมูล พฤติกรรมของผู้บริโภคจึงกำลังเปลี่ยนแปลง
ตอนนี้ผู้ซื้อสามารถค้นพบแบรนด์ต่างๆ ผ่านการแชทกับ AI การค้นหาบนโซเชียลมีเดีย หรือโฆษณาวิดีโอและเสียงได้ ก่อนที่พวกเขาจะคิดถึงการค้นหาบน Google นี่เป็นสัญญาณเตือนสำหรับแบรนด์ที่พึ่งพาเพียง SEO บน Google เท่านั้น เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ พวกเขาต้องให้ความสำคัญกับการปรากฏตัวบนแพลตฟอร์ม AI การค้นหาบนโซเชียลมีเดีย และช่องทางสำคัญอื่นๆ
จากรายงานของ TrendHunter ผู้คนจำนวนมากเริ่มไม่เชื่อถือการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์แบบดั้งเดิมอีกต่อไป ดังนั้นการให้ลูกค้าทั่วไปมีโอกาสรับค่าคอมมิชชันจากการแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรงมาผ่านโปรแกรมพันธมิตร แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับชุมชนและสร้างความภักดีที่แข็งแกร่งขึ้นได้ วิธีนี้ทำให้มีผู้คนจำนวนมากขึ้นสนับสนุนและส่งเสริมแบรนด์ ซึ่งนำไปสู่การมีส่วนร่วมที่มากขึ้น
ในปีนี้ ภูมิทัศน์ของการสร้างแบรนด์ระดับภูมิภาคจะเริ่มหันมาสนใจการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและประเพณีท้องถิ่นที่น่าดึงดูดใจ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ แบรนด์ต่างๆ ต้องใช้แนวทางที่ยืดหยุ่นโดยรับฟังความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างตั้งใจ ขณะเดียวกันก็เคารพโครงสร้างทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของภูมิภาค ตั้งแต่การปรับแต่งเนื้อหาเฉพาะบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในระดับท้องถิ่นไปจนถึงการผสานรวมประเพณีและนวัตกรรมอย่างราบรื่น
แบรนด์ที่จะประสบความสำเร็จได้คือแบรนด์ที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยความคล่องตัว ให้ความสำคัญกับความจริงใจ และสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งในมุมมองของเรา สิ่งเหล่านี้จะกำหนดทิศทางของภูมิทัศน์ของแบรนด์ในปี 2025
ในปี 2025 แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จคือแบรนด์ที่เข้าใจการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัลและความแท้จริงทางวัฒนธรรม การสร้างประสบการณ์ที่ใช้ประสาทสัมผัสหลายด้าน การใช้ Generative AI เพื่อปรับแต่งเนื้อหาเฉพาะบุคคล และการสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งผ่านแพลตฟอร์มแบบกระจายการดูแล ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดและรักษาลูกค้า นอกจากนี้ การนำประวัติศาสตร์และเอกลักษณ์ของแบรนด์กลับมาใช้ยังช่วยสร้างความแตกต่างและเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ BrandMadeFuture เราช่วยคุณพัฒนากลยุทธ์แบรนด์ที่ตอบสนองเทรนด์ที่กำลังมามีอิทธิพลเหล่านี้ พร้อมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และก้าวไปข้างหน้ากับแบรนด์ของคุณแล้วหรือยัง?
📩 : hi@brandmadefuture.com
🌐 : ติดต่อรับคำปรึกษา
ติดต่อเราวันนี้เพื่อเริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จในปี 2025 และอนาคตข้างหน้า! 🚀✨
